ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาที่โรงพักในวันนี้ก็อยากถามกับทางเจ้าตัวผู้ก่อเหตุว่าทำไปเพื่ออะไร และทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อีกทั้งตนก็ยังสงสัยว่าคนร้ายทำไมถึงต้องเข้ามาในคอนโด และทำไมต้องใช้อาวุธมีดแทงลูกชายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนในเรื่องของคดี ตนยืนยันว่าจะเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะการกระทำเช่นนี้เหมือนไม่ใช่คน
ขณะที่ในระหว่างการสอบสวน ทางด้าน นายณัฐกฤษณ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำลงไปนั้นเป็นเพราะเกิดความเครียดจากการที่ตนว่างงานไม่มีงานทำ โดยก่อนหน้านี้ตนก็จะช่วยงานพ่อที่มีอาชีพเป็นสถาปนิกและรับเหมาก่อสร้าง แต่ต่อมาพ่อไม่ให้ทำงานด้วย พอไม่มีงานทำก็เลยไม่มีเงิน ในวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่คอนโดดังกล่าว แล้วรถน้ำมันจะหมด อีกทั้งแบตโทรศัพท์ก็หมด จึงพยายามเดินหาคนแถวนั้นเพื่อที่จะขอยืมเงิน แล้วได้เข้าไปในคอนโดดังกล่าว
โดยตั้งใจจะเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ พยายามเดินไปบิดลูกบิดห้องที่ไม่ได้ล็อค แต่ผู้บาดเจ็บรายแรกเข้ามาเจอ ตนตกใจจึงพยายามก่อเหตุทำร้ายร่างกาย แต่อีกฝ่ายขัดขืน แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งผู้บาดเจ็บอีกรายเปิดห้องออกมา ตนจึงต้องทำร้ายเพราะจวนตัวและเกิดความกลัว แล้วหลังจากนั้นจึงหลบหนี
นายณัฐกฤษณ์ ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าไปพบแพทย์เพื่อขอยาระงับประสาท เมื่อหลายปีก่อน แต่ก็ไม่ได้ใช้ยา และเคยมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในช่วงระหว่างที่กำลังจะเกณฑ์ทหาร แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ จนกระทั่งมาถึงครั้งนี้ที่ตนมีความเครียด เพราะไม่มีงานทำ และส่วนใหญ่จะได้เงินจากพ่อแต่พักหลังไม่ได้ทำงานช่วยพ่อจึงไม่ค่อยได้เงิน จนกระทั่งต้องมาก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนก็รู้สึกเสียใจและอยากขอโทษผู้ที่ถูกตนทำร้ายร่างกายด้วย
ทางด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ตัวผู้ต้องหาได้เข้าไปในคอนโดที่เกิดเหตุ เพราะไม่มีเงิน แล้วรถน้ำมันจะหมด และแบตโทรศัพท์หมดติดต่อใครไม่ได้ และอ้างว่าได้ขับรถไปจอดแล้วเดินวนเพื่อหาคนขอยืมเงิน และเมื่อมีคนเปิดประตูเข้าไปในคอนโดก็เดินตามเข้าไปด้วย หลังจากเข้าไปได้ก็พยายามจะเปิดหาห้องที่เปิดได้ โดยเจตนาก็น่าจะเข้าไปลักทรัพย์ และหากเจอผู้หญิงก็อาจจะข่มขืน แต่หลังจากเปิดห้องก็มีผู้เสียหายขอความช่วยเหลือ ทางผู้บาดเจ็บได้ยินก็เปิดห้องออกมา แล้วซักถามผู้ต้องหา ทางเจ้าตัวเลยเกิดความกลัวจึงใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายคนแรก แล้วผู้เสียหายคนแรกก็ร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นผู้เสียหายคนที่สองได้ยินเสียง จึงเปิดประตูออกมา แล้วจึงถูกคนร้ายเข้าทำร้ายร่างกายไปด้วย
โดยหลังจากก่อเหตุทางคนร้ายก็บอกว่าได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่บ้านผู้หญิงที่รู้จักเพื่อขอเงิน แล้วจะขอพักด้วย แต่ทางฝ่ายหญิงไม่ให้พัก คนร้ายจึงขับรถจักรยานยนต์ไปต่อ จนกระทั่งถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ อ.แม่ริม
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวอ้างว่าเคยตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดในช่วงเกณฑ์ทหาร แต่ประวัติก่อเหตุอาชญากรรมยังไม่พบว่ามีประวัติแต่อย่างใด นอกจากนี้จากการซักถามเจ้าตัวยอมรับว่ามีอาการทางจิต และยอมรับว่าเคยเข้าพบแพทย์เพื่อขอรับยาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้ยานานแล้ว อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหาในข้อหา “พยายามฆ่า” และได้ส่งตัวฝากขังต่อไป