“บิ๊กโจ๊ก” เปิดภาพ วงจรปิดนาทีช่วยเหลือ สารวัตรแบงค์-พ.ต.ท.วศิน พบมีตำรวจแค่ 8 นาย ให้การช่วยเหลือ แต่ไม่พบ ผู้กำกับพญาไท ช่วยผู้บาดเจ็บ เตรียมพิจารณาเอาผิด ม.157 พร้อมระบุ เซิร์ฟเวอร์วงจรปิด 2 ตัวสำคัญ ถูกปิดตั้งแต่ 10.16 น. ก่อนเหตุรู้สัญญาณแล้วว่าจะยิงเลยเคลียร์คน เตรียมรถหนี
เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 15 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาดูกล้องวงจรอีก 2 ตัว จากใน 15 ตัว ภายในบ้านของกำนันนก ซึ่งเป็นจุกสำคัญที่จะเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด โดยใช้เวลาดูประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะนำภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนในที่เกิดเหตุ ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ มาเปิดเผยให้สื่อมวลชนได้ดู เชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้เปิดภาพที่ได้กล้องวงจรปิดให้ดู โดยภาพแรก เป็นภาพขณะที่ตำรวจ 3 นาย คือ ด.ต.สราวุธ , ด.ต.ชนาณัฐ และ พ.ต.ต.ณรงค์ อุ้มร่างสารวัตรแบงค์หลังถูกยิงบาดเจ็บขึ้นรถ โดยมีพลขับวิ่งไปนำรถเก๋งแล้วพาตัวสารวัตรแบงค์ นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนตำรวจอีกคนนั่งเบาะหลังแล้วคอยเอามืออุดบาดแผลจากรอยกระสุน แล้วพลขับก็พาไปโรงพยาบาล จากนั้นไปช่วย พ.ต.ท.วศิน ที่ล้มอยู่ โดยตำรวจที่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ มี 8 นาย คือ ด.ต.สราวุธ, ด.ต.ชนาณัฐ, ร.ต.ท.จตุรวิทย์, พ.ต.ท.ภทร, พ.ต.ต.ณรงค์, จ.ส.ต.เมทิศกร ,จ.ส.ต.ทศพล (พลขับ) และ ผกก.เบิ้ม พ.ต.อ.วชิรา
ส่วนอีกภาพ เป็นช่วยก่อนเกิดเหตุตอน 2 ทุ่มกว่าๆ นายหน่อง อยู่ในงาน ในกระเป๋ากางเกงมีปืนทีใช้ก่อเหตุ และอีกภาพเป็นเวลาประมาณ 19.40 น. นายเด้ง ญาติของกำนันนก กับ นายต๋อง เดินเข้ามาในงาน และมีภาพส่งปืนให้นายเด้ง เข้าไปในงานด้วย หลังมือปืนลั่นไก นายเด้งชักปืนออกมา ลักษณะปกป้องกำนัน จากนั้นก็เป็นภาพ 1 ใน 6 ตำรวจที่ถูกจับในชุดแรก ถอดเสื้อ โดยมีปืนเหน็บไว้ที่เอว หลังอ้างว่าไม่มีปืน อีกคนก็มีปืนพกไว้ที่เอวเช่นเดียวกัน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ภาพแรกสิ่งที่สังคมสงสัย ตำรวจคนให้การเท็จ จะเห็นว่าคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมีแค่นี้เอง ที่ให้การว่าช่วยก็ไม่ได้ช่วย คำให้การขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ส่วนการดำเนินคดีจะร่วมกันพิจารณาแจ้งข้อหาให้การเท็จ ว่ามี ตำรวจนายใดที่ต้องถูกแจ้งข้อหานี้
วันนี้ดำเนินคดี นายเด้ง กับ นายต๋อง ในกรณีพกปืน นายต๋อง เอาปืนมาให้ นายเด้ง โดนแจ้งข้อหาไปแล้วทั้งคู่ และวันนี้ได้ดูกล้องทั้งหมด สิ่งที่สังคมคาใจใครช่วย-ไม่ช่วยบ้าง ตำรวจในงานส่วนใหญ่มีปืน แต่ไม่ช่วย ทั้งที่เป็นเหตุซึ่งหน้า ซึ่งเตรียมดำเนินคดี หลังเกิดเหตุแล้ว ตำรวจกลับไปช่วยผู้กระทำผิด แทนที่จะอยู่ข้างตำรวจ ช่วยตำรวจ กลับไปช่วยผู้กระทำผิด ส่วนนายตำรวจระดับสูงเผ่นแน่บ แล้วบอกว่าไปช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วยเลย แบบนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งจะดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
ส่วนกล้อง 2 กล้องที่สับสนกันตั้งแต่เช้า เพิ่งได้ข้อเท็จจริง ที่กู้ได้ 100% มีแค่ 13 ตัว ส่วนกล้องอีก 2 ตัว โดยตัวแรก กล้องไม่ได้ใช้งานตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. อีกตัวเวลาเดินมาที่ 10.16 น. วันเกิดเหตุ และไม่มีภาพหลังจากนี้ สรุปแล้วไม่มีการดึงปลั๊ก ไม่มีการถอดสาย หลังถอดบอร์ดออกตรวจสอบสรุปแล้ว กำนันนกไปกดสวิตช์ปิดตอนเวลา 10.16 น. เหตุเพราะอาจมีคนมาเตือน ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาจัดสถานที่งานเลี้ยง คาดว่ามีคนไปเตือนเรื่องการจัดงาน กล้องต้องไม่ให้เห็นว่ามีใครมานั่งบ้าง จึงไปปิดกล้องเลยไม่มีการบันทึกภาพตั้งแต่นั้นมา
เหตุการณ์ในการยิงในงานนั้น คงไม่มีใครคิดว่าจะรุนแรงแบบนี้ หลังทะเลาะกัน กำนันไปคุยกับนายหน่อง มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า กำนันสั่งยิง หลังยิงแล้วลูกน้องกำนันยืนคุมเชิงทุกจุด แต่ตำรวจต่างคนต่างออก ต่างคนต่างทิ้งหน้าที่ ตำรวจบางส่วนเห็นความผิดซึ่งหน้าแต่ไม่จับกุม อันนี้มีความผิดชัดเจน
เดินทีที่สอบปากคำตำรวจในงานบอกว่า ไปส่งคนเจ็บที่ รพ. เป็น 10 คน แค่ความจริงแล้วมีแค่ 5 คนเท่านั้น ตามภาพวงจรปิดที่ปรากฎ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างคนต่างเอาตัวรอด ส่วนจะแจ้งจ้อหาใครบ้างพรุ่งนี้พิจารณากัน พยานหลักฐานมัดกำนันนก ตอนนี้มันจบแล้ว หลังจากนี้จะไล่ขยายผลต่อ ความร่ำรวยผิดปกติ เส้นทางการเงินมาจากไหน ต้องตอบให้ได้ และเรื่องธุรกิจ การประมูลงานต่างๆ ทั้ง 1,500 โครงการ มันยิ่งกว่าผิดปกติ ต้องตรวจสอบ ถ้าผิดต้องถูกดำเนินการฟอกเงินยึดทรัพย์ รวมถึงดำเนินการเรื่องภาษี
การปิดกล้องต้องตั้งใจปิด คงไม่ได้คิดจะสังหารในตอนนั้น แค่ไม่อยากให้เห็นว่ามีใครบ้างในงาน คาดว่ามีคนเตือน ซึ่ง สารวัตรแบงค์ เข้ามาในงานได้แป๊บเดียวก็มีการยิงเกิดขึ้น ในงานลูกน้องกำนันมีปืนหมด ตำรวจก็มีปืน ส่วนนายหน่องก็พกปืนตลอด สรุปเป็นความฮึกเหิม เป็นความคึกคะนอง
ในงาน นายต๋อง ส่งปืนให้ นายเด้ง ซึ่งก็รู้แน่ว่าถ้ามีเรื่องต้องมีการใช้อาวุธ คนในงานรู้ว่าลูกพี่มีปัญหากับสารวัตรคนนี้ ถ้ามีปัญหาก็ต้องยิงกัน จึงตระเตรียมไว้ก่อน วงจรปิดมีมากกว่านี้ ก่อนยิงมีการเคลียร์กัน มีการเอาคนแก่ออกจากงานไปก่อน เปิดทางให้รถเตรียมออก จากนั้นกำนันนกออกมาคุยกับนายหน่อง และกำนันนกส่งสัญญาณให้ยิง
มูลเหตุสำคัญ 1.การขอลูกน้องให้มาทำหน้าที่ จยย.สายตรวจ 2.มีปัญหาเรื้อรัง สารวัตรแบงค์เข้ามาปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ทำให้รถบรรทุกน้ำหนักเกินวิ่งไม่ได้ ทำให้กำไรน้อยลง เป็นมูลเหตุให้มีการลุแก่อำนาจ ใช้ปืนสั่งยิง มูลเหตุมาจากเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรื่องการดวลเหล้านั้น มีการดวลเหล้ากัน ระหว่าง สารวัตรแบงค์กับกำนันนก เรื่องดวลเหล้านั้นเป็นแค่ส่วนเดียว เรื่องหลักเป็นเรื่องการไม่พอใจสารวัตรคนนี้อยู่แล้ว เรื่องทำให้รถเขาวิ่งลำบาก และเรื่องย้ายลูกน้อง รวมถึงกาารดวลเหล้า ซึ่งสารวัตรแบงค์ไปบ้านนี้ครั้งแรก ผกก.เบิ้ม ชวนไป เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกับกำนัน เพราะตัวเองก็สนิทอยู่แล้ว