
เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เผยผลเบื้องต้นการชันสูตรศพ “น้องจีฮุน” เหยื่อรถตู้โรงเรียนมรณะ ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืนและประเด็นการฆาตกรรม ไม่ปรากฏร่องรอยการทำร้าย น่าจะเกิดจากอาการฮีตสโตรก คาด 15 ก.ย.นี้รู้ผล คลายปมสงสัย
เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตร. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เข้าพบ ผบก.นิติเวช รพ.ตร. เพื่อเข้าฟังการชี้แจงขั้นตอนและกระบวนการผ่าพิสูจน์ศพ น้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ ลูกเจ้าของร้านจำหน่ายกล่องผลไม้ กล่องใส่ผลไม้ที่เสียชีวิตภายในรถตู้โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกมาแถลงว่า จากการเข้าฟังผลตรวจสอบไม่พบความผิดปกติ หรือสิ่งที่เป็นสมมติฐานที่ตั้งไว้ว่าถูกฆาตกรรม หรือการทำร้ายร่างกาย แต่ผลการชันสูตรบ่งชี้ว่าเกิดอาการฮีตสโตรก หรือเกิดจากความร้อนในร่างกายมากเกินไป จากการดูกระบวนการขั้นตอนการผ่าของแพทย์นิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ได้ดำเนินการ 5 ข้อ คือ การบันทึกเสื้อผ้า, การตรวจสภาพร่างกายลักษณะภายนอก, การบันทึกบาดแผลภายนอกร่างกาย, การเก็บวัตถุพยาน เช่น ตรวจเลือด ช่องคลอด ทวารหนัก เล็บ ชิ้นเนื้อ เพื่อยืนยันผลการตรวจวินิจฉัยอาหารในกระเพาะ และข้อสุดท้ายคือการผ่าชันสูตรภายในร่างกายทั้งหมด โดยจากการดูพบว่ามีร่องรอยฟกช้ำตามแขนและใบหน้าบ้าง ไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน หรือรอยฟันหักรอยกระแทก โดยสภาพภายในของน้องจีฮุนแต่ละส่วนปกติอยู่
จึงสรุปได้ว่าผลดังกล่าวน่าจะเกิดจากอาการฮีตสโตรก คือ อุณหภูมิในร่างกายสูงและเกิดการเปลี่ยนแปลง ส่วนชุดนักเรียนมีร่องรอยเปรอะเปื้อนฝุ่น เสื้อผ้ายับ เพราะสภาพศพครั้งแรกมีการพับแขนเอาไว้เพราะเสื้อแขนยาว บริเวณแก้มซ้ายมีรอยถลอก เนื่องจากตอนพบศพนอนคว่ำหน้าจึงมีอาการเลือดตก มีแผลฟกช้ำปลายแขนด้านซ้ายและต้นแขนขวา หัวเข่าฟกช้ำทั้งสอง น่องมีรอยถลอก รวมประมาณ 9 บาดแผล เยื่อบุตาไม่พบเลือดออก ไม่มีรอยกระแทก ไม่มีร่องรอยการถูกบีบคอแต่อย่างใด ส่วนการผ่าภายในเปิดศีรษะไม่มีรอยกระทบกระแทก ปอดมีเลือดออกเป็นจุดๆ
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ส่วนตัวพอใจผลการผ่าชันสูตรพลิกศพของนิติเวช รพ.ตำรวจ โดยเฉพาะประเด็นการฆาตกรรมไม่ปรากฏร่องรอยการทำร้าย แพทย์ได้ทำการเปิดตาแบบเดียวกันกับคดีของแตงโม คือหลับตาปกติ ไม่มีอะไรซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะกระทำ ส่วนกรอบเวลาจากเดิม 40 วัน ได้ให้นิติเวช รพ.ตำรวจ สรุปผลเร็วขึ้นภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ พร้อมเร่งรัดผลจากตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ให้ได้ผลเพื่อแก้ปัญหาและคลายปมสงสัย หากได้ครบหมดแล้วก็จะมอบหมายให้ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุขรายงานผลให้กับครอบครัวน้องจีฮุนได้ทราบ คาดว่าภายใน 15 ก.ย.นี้ หลังจากนี้หากยังสงสัยก็จะเข้าสู่การผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 แต่เบื้องต้นครอบครัวบอกว่าถ้ากระทรวงยุติธรรมมาดูแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็สามารถนำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ด้าน นพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม หรือหมอคิว ในฐานะคณะผู้สังเกตการณ์ร่วมได้อธิบายเพิ่มเติมของอาการฮีตสโตรก ว่าในเด็กที่เสียชีวิตในรถมีจำนวนมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กจะทนความร้อนได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ หากนอนหลับก็จะเกิดอาการทางสมอง ชัก หมดสติ อวัยวะภายในต่างๆล้มเหลว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ส่วนบาดแผลฟกช้ำเกิดขึ้นตามแขนขาและหนังศีรษะเข้าได้กับบางตำแหน่งภายในรถ คาดว่าขณะมีอาการชักเกร็งทำให้แขนขาฟาดไปยังสิ่งแวดล้อมในรถ ส่วนจุดเลือดออกในปอดก็พบได้ในศพที่เกิดอาการฮีตสโตรกเช่นเดียวกัน แต่ยังต้องนำข้อมูลต่างๆ จาก พฐ. และพนักงานสอบสวนตรวจที่เกิดเหตุมาประกอบกัน.